ใครทำกรรมใดต้องแก้แค้น


"ใครทำกรรมใดต้องได้รับ กรรมนั้น" คำพูดนี้เป็นคำพูดของนาย จตุพร ซึ่งได้พูดในวันที่ 9 เมษายน 2552 ออกทีวีช่อง 9 อสมท. ในตอนที่ ม๊อบ นปช บุกปิดล้อม อนุเสาวรีย์ชัย สมรภูมิ ซึ่งเป็นถนนสายหลักของกรุงเทพ ฯ ได้พูดออกมาแบบ คนที่อยู่ในอารมย์แค้น โกรธ เหมือนจะโดนใครทำร้ายมาแสนสาหักสากัน คนที่ซึ่งเป็นผู้นำเคยบริหารประเทศ มาก่อน ฟังแล้วเหมือนกับเป็น สามัญชน ธรรมดา เหมือนกับไอ้ขี้แพ้ชวนตี ดูแล้วเป็นคนโกรธง่าย ใจร้อน หลงไปกับอารมย์ชั่ววูป นี้หรือผู้ที่จะมาทวง คำว่า "ประชาธิปไตย " จะมา "โค่น อามาตย์ " กิเลสหนา ปัญญาทึบ พูดออกมาได้ คะแนนเสียง จากประชาชน ที่ถูกยัดเสียด ให้ต้องแบ่งเป็นเสื้อเหลืองเสื้อแดงหายหมด

จตุพร พรหมพันธุ์


ประวัติโดยย่อ ของบุคคลท่านนี้ ชื่อว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์
จตุพร พรหมพันธุ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระบบสัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) (ชื่อเล่น: ตู่) เกิดเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2508 ที่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง นายจตุพรเป็นอดีตโฆษกพรรคไทยรักไทยและอดีต ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อของพรรค แจ้งเกิดทางการเมืองจากการเป็นผู้นำนักศึกษาช่วงเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ พ.ศ. 2535 เมื่อเกิดการปราบปรามผู้ชุมนุมที่ ถ.ราชดำเนิน และผู้ชุมนุมย้ายไปปักหลักที่รามคำแหง โดยมีจตุพรขึ้นไฮด์ปาร์กอย่างโดดเด่น

เข้าสู่วงการเมืองครั้งแรกด้วยการสังกัดพรรคพลังธรรมในช่วงที่มีนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เป็นหัวหน้าพรรค ต่อมาเริ่มใกล้ชิดกับนายภูมิธรรม เวชชยชัย รองประธานมูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม (มอส.) ในขณะนั้น ซึ่งต่อมาทำให้ได้มีส่วนร่วมในการก่อตั้งพรรคไทยรักไทย มาตั้งแต่นั้น

ดำรงตำแหน่งเป็นเลขานุการของนายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สมัยรัฐบาลทักษิณ 1

นายจตุพร ทำงานการเมืองโดยมีกลุ่มนักศึกษารามคำแหง พรรคศรัทธาธรรมที่ตัวเองเป็นผู้ก่อตั้ง จึงมีชื่อที่รู้จักกันดีในสมัยเรียนว่า ตู่ ศรัทธาธรรม เป็นฐานกำลังคอยเคลื่อนไหว เช่น การให้กำลังใจ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร[ต้องการแหล่งอ้างอิง] การมอบดอกไม้ กกต. การเดินขบวนไปหน้าสำนักงานหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ในสมัยที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เคลื่อนไหวขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ต่อมาเข้าร่วมเป็น 1 ใน 8 แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ที่เคลื่อนไหวต่อต้าน คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ต่อมาได้เข้าสังกัดกับพรรคพลังประชาชนพร้อมกับลงรับสมัคร ส.ส. ในระบบสัดส่วนลำดับที่ 4 ของโซน 6 ที่ประกอบด้วยพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ และได้รับเลือก

ในปี พ.ศ. 2551 นายจตุพรเป็นหนึ่งในพิธีกรรายการ ความจริงวันนี้ ทางเอ็นบีที โดยร่วมกับ นายวีระ มุสิกพงศ์ และ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เพื่อตอบโต้และวิพากษ์วิจารณ์การเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ แทนรัฐบาล

หลังการยุบพรรคและเปลี่ยนขั้วรัฐบาล นายจตุพรได้นำหน้าที่ฝ่ายค้านในสภา และเป็นหนึ่งในผู้อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล และเมื่อ นปช. ชุมนุมใหญ่ขับไล่รัฐบาล นายจตุพร ได้ร่วมขึ้นปราศรัยในฐานะแกนนำ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น